หญิงไทยวัย 72 ปีได้เล่าให้ฟังว่าเธอรักษาโรคเข่าที่เป็นอยู่ให้หายขาด

หญิงไทยวัย 72 ปีได้เล่าให้ฟังว่าเธอรักษาโรคเข่าที่เป็นอยู่ให้หายขาดจนเข้าร่วมการแข่งขันมาราธอนระยะทาง 42 กิโลเมตร 195 เมตร ได้อย่างไร

ภายในระยะเวลา 2 ปี อุบล ได้ร่วมวิ่งมาราธอน 11 ครั้ง และชนะการแข่งขันโดยคว้าถ้วยรางวัล 2 ถ้วย และเหรียญทั้งหมด 8 เหรียญในการแข่งขันวิ่งนานาชาติ ในวัย 72 ปีของ อุบล ทั้งกำลัง ความกระฉับกระเฉง และสุขภาพที่แข็งแรงของเอาชนะหญิงและชายในวัย 40 ได้อย่างสบาย แต่ใช่ว่าเธอจะมีร่างกายแบบนี้มาก่อนหน้านี้ หลังจากใช้ชีวิตอยู่ใน แม่ฮ่องสอน มายาวนาน หลังจาก อุบล ย่างเข้าวัย 40 ปี เธอกลับมีอาการป่วยเป็นโรคกระดูกพรุน ปวดร้าวลงขาและโรคข้ออักเสบ และในวัย 58 ปี เธอก็ขยับตัวไม่ได้ ด้วยโรคข้อต่อสะโพกเสื่อม ข้อต่อของเธอนั้นเสื่อมสภาพไปเกือบหมดแล้ว เธอเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างยากลำบาก และหนึ่งปีให้หลัง เธอก็กลายเป็นอัมพาดทั้งตัว เงินบำนาญที่เธอได้รับไม่เคยพอสำหรับการจ่ายค่ายาแพงๆ จนในที่สุดในวัยคุณยาย อุบลก็ตัดสินใจรักษาข้อและกระดูกสันหลังของตัวเองอย่างจริงจัง จนหลังจากนั้นได้ 2 ปี อาการป่วยของเธอที่เป็นอยู่ก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง จนเมื่อเธออายุได้ 70 หมอที่ได้ทำการตรวจเธอตกใจกับการที่เธอมีสุขภาพดีอย่างเหลือเชื่อ จนเอ่ยมาว่า “นี่ถ้าส่งไปแข่งยกน้ำหนัก หรือไปแข่งวิ่ง ยังไงก็ชนะแน่นอน” แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ อุบลในวัย 72 ปี ได้ร่วมการแข่งขันมาราธอนในระยะทาง 42 กิโลเมตร 195 เมตร และสามารถคว้าถ้วยรางวัลเกียรติยศในการแข่งขันนานาชาติมาได้ เธอประสบความสำเร็จในการรักษาโรคข้อเข่าของเธอได้อย่างไร และในวัยขนาดนี้เธอทำอย่างไรถึงได้รับเกียรติและความนับถือจากคนไทยได้ขนาดนี้ อุบล ได้แบ่งปันเคล็ดลับความสำเร็จของเธอให้กับผู้อ่านของเราได้รับทราบ ผู้สัมภาษณ์: คุณ อุบล คำถามแรกเลยนะครับ ไม่ทราบว่าทำอย่างไรถึงได้มีร่างกายที่แข็งแรง กระฉับกระเฉง สุขภาพดีได้ขนาดนี้ แถมยังคว้าถ้วยรางวัลมามากมายในวัยขนาดนี้ ไม่ทราบว่ามีเคล็ดลับอะไรหรือครับ เกมส์ยิงปลา ถอนได้ 24 ชั่วโมง ดิฉันต้องขอบอกก่อนนะคะ ว่าก่อนหน้านี้ดิฉันไม่ได้เป็นแบบทุกวันนี้ ดิฉันทำนามาทั้งชีวิต ก้มๆ เงยๆ วันละ 12 ชั่วโมง ตลอดระยะเวลา 35 ปี จนพออายุได้ 42 ดิฉันไม่สามารถยืดตัวตรงได้ ทำให้ต้องนอนโรงพยาบาล 2 สัปดาห์ หมอตรวจแล้วก็บอกว่าดิฉันเป็นโรคกระดูกพรุนระยะที่ 4 ประกอบกับก่อนหน้านั้นดิฉันป่วยเป็นโรคข้ออักเสบและมีอาการปวดสะโพกอยู่ก่อนแล้ว หลังจากนั้นได้ปีนึง ดิฉันก็ต้องพึ่งไม้เท้าเวลาไปไหนมาไหน ผ่านไปไม่กี่เดือนหลังจากใช้ไม้เท้า ก็กลายมาเป็นนั่งรถเข็นคนพิการแทน หมอให้ยาดิฉันมานับสิบๆ อย่าง ตอนนี้จำไม่ได้แล้วว่าให้อะไรมาบ้าง ยาเม็ดช่วยได้บ้าง แต่ก็ช่วยได้ไม่นาน ถ้าได้ลืมยามื้อไหนไปมื้อนึง ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงจะมีอาการปวดมากจนทนไม่ได้ นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ครั้งหนึ่งดิฉันหมดสติไป เท่าที่ดิฉันรู้มา ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมาการรักษาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย หมอก็ไม่รู้ว่าจะรักษาข้อเข่าที่เสื่อมให้กับมามีสภาพดีขึ้นได้อย่างไร ส่วนร้านขายยาก็ขายแต่ยาที่โฆษณาสรรพคุณตัวโตๆ บนซองว่าช่วยได้อย่างนั้นอย่างนี้ แต่ความเป็นจริงแล้วหากินกับคนป่วยอย่างเรา ตอนนั้นดิฉันทำงานอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งๆ นอนๆ กินยาเป็นกำๆ และจ่ายเงินไปให้ร้านขายยานับไม่ถ้วน มันเป็นเงินที่ดิฉันหามาตลอดระยะเวลา 35 ปี 20 ปีที่จะถูกปิดการใช้งาน ASIA369 ดิฉันทนทุกข์ทรมานอยู่ในสภาพนั้นเกือบ 20 ปี คุณลองคิดดูว่ามันทรมานขนาดไหน!! แล้วตลอดระยะเวลา 20 ปีก็ไม่มีหมอคนไหนที่ช่วยอะไรดิฉันได้เลย หลังจากที่ดิฉันอายุได้ 70 ดิฉันก็คิดว่าตัวเองคงจะมีอายุได้อีกแค่ 3-4 ปี หรืออาจจะมากที่สุด 5 ปี รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ถ้าวันไหนตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจ็บไม่ปวดอะไร วันนั้นถือว่าตัวเองโชคดีมากๆ ดิฉันป่านนี้คงตายไปแล้วถ้าไม่ได้หลานสาวมาช่วย สามีของหลานเค้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในศูนย์วิทยาศาสตร์ด้านโรคข้อในกรุงเทพ เขาบอกให้ดิฉันรีบรักษาข้อเข่าที่เสื่อม โดยเริ่มจากการบำบัดให้น้ำไขข้อกลับสู่ปกติก่อน เพื่อจะให้ข้อเข่าที่เสื่อมสภาพกลับสู่สภาวะปกติ ต้องต้องทำให้น้ำไขข้อกลับสู่สภาพวะปกติก่อน โดยจะต้องทำความสะอาดน้ำเหลือง แล้วก็บอกว่าถ้าทำความสะอาดแล้วดิฉันก็จะมีชีวิตอยู่ได้อีกนาน เขาอธิบายให้ฉันฟังแบบให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ลองคิดดูสิ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากว่ารถยนต์ไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไม่ใส่จารบีเลย ถูกต้อง! รถยนต์ก็จะแย่ลงๆ เรื่อยๆ อะไรก็จะเสื่อมและจะจบลงที่รถยนต์ไม่สามารถแล่นต่อไปได้ เช่นเดียวกันกับน้ำเหลืองของคนเรา มันจะต้องส่งสารอาหารไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายและกำจัดของเสียที่เกิดขึ้น สิ่งสกปรกและสารพิษที่สะสมเป็นปีๆในระบบน้ำเหลืองส่งต่อไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย และอวัยวะที่ได้รับความกระทบกระเทือนมากที่สุดก็คือข้อและกระดูกสันหลัง ทั้งนี้ก็เพราะว่ากระดูกอ่อนนั้นมีความไวต่อการรับรู้ถึงความสะอาดของต่อมน้ำเหลืองนั่นเอง